Shoe Rack
from paper
คณะผู้จัดทำ
ด.ญ.
ศิริวรรณ ชำนาญหล่อ ม.3/12
เลขที่ 11
ด.ญ.
จุรีพร ขันทะคุณ ม.3/12เลขที่ 14
ด.ญ. ปานชีวา วงศ์ไชย ม.3/12
เลขที่ 15
น.ส.
อัจฉริยา มานิตย์ ม.3/12 เลขที่ 33
ด.ญ.
ปุณยนุช เผ่ากันทะ ม.3/12 เลขที่ 45
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3/12
ครูที่ปรึกษา
ครูศศิร์อร ศักดิ์กิตติพงศา
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
รายวิชา เทคโนโลยี 3 ง23102
โรงเรียนพะเยาพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนพะเยาพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ปีการศึกษา 2559
โครงร่างของโครงงาน
ชั้นวางรองเท้าจากลังกระดาษ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
โครงงานเรื่องนี้มีที่มาจากการต้องการกำจัดปัญหาในชุมชน
ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และนำมาทำเป็นประโยชน์
โดยการประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่เองและนำมาใช้เองด้วย
โดยเราเลือกปัญหาที่มีลังกระดาษมากมายจากร้านค้าหรือลังจากไปรษณีย์ ลังห่อของขวัญ
มาทำที่วางรองเท้าจากลังกระดาษง่ายๆ ใช้เองในบ้าน
จากการที่เราได้ทำที่วางรองเท้าจากลังกระดาษ
พวกเราสามารถลดปัญหาลังกระดาษที่มีมากมาย ไปสร้างประโยชน์ในทางอื่น
ที่นอกเหนือจากการนำไปขาย ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินไปซื้อเฟอร์นิเจอร์แพงๆ
เพื่อมาใส่รองเท้าของเรา
วัตถุประสงค์
1.
ประดิษฐ์ที่วางรองเท้าจากลังกระดาษที่มีมากมาย(นอกเหนือการขาย)
2.
เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.
เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า
1.สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย
2.สามารถนำสิ่งประดิษฐ์ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง
เครื่องมือ
อุปกรณ์ และวัสดุที่ใช้ในการศึกษา
1.อินเตอร์เน็ต
2. ลังกระดาษ
3. เทปกาว
4. กรรไกร
5. กระดาษ
วิธีการดำเนินการศึกษา
ขั้นที่
1 กำหนดปัญหาหรือความต้องการ
ปัญหา คือ
การที่เรามีลังกระดาษในชุมชนที่มากมาย
แนวทางการแก้ปัญหา คือ
นำลังกระดาษเหล่านั้น มาทำเป็นที่วางรองเท้าด้วยตัวเอง สามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ
และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินมาก
ขั้นที่
2 รวบรวมข้อมูล
1.
การวิเคราะห์ปัญหาหรือความต้องการด้วยชุดคำถาม 5w1h
1.1) ปัญหาหรือความสนองความต้องการคืออะไร
(what)
- ต้องการนำลังกระดาษที่มีมากมาย
มาทำที่วางรองเท้า
1.2) ปัญหาหรือสนองความต้องการเกิดขึ้นกับใคร
(who)
- คนในชุมชน
- ชุมชน
1.4)
ปัญหาหรือความสนองความต้องการเกิดขึ้นเมื่อไร (when)
- เมื่อพบว่าชุมชนไม่นำลังกระดาษมาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้
1.5) เพราะเหตุใดจึงต้องแก้ปัญหาหรือความสนองความต้องการ
- ต้องการนำของที่มีอยู่นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้
1.6) จะแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการอย่างไร
(how)
- นำลังกระดาษมาทำที่วางรองเท้า
2.
ข้อมูลที่จำเป็นในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ
2.1 รูปแบบที่วางรองเท้า
รูปแบบในการทำนั้นต้องแปลกใหม่
มีรูปทรงที่ใช้งานได้เยอะๆ เหมาะกับรูปทรงของรองเท้า ถนอมรองเท้าไม่ให้พัง
และตกแต่งให้เข้ากับสีรองเท้า ซึ่งมีทั้ง รูปแบบสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม
2.2
สร้างวิธีการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ เพื่อเป็นทางเลือกในการออกแบบ
ขั้นที่
3 เลือกวิธีการ
ที่วางรองเท้าจากลังกระดาษนั้น
เราต้องคำนึงถึง พื่นที่ในการใช้ประโยชน์ที่คุ้มค้า ถนอมรูปทรงรองเท้า
ไม่เกะกะมากจนเกินไป และ มีรูปทรงแปลกใหม่
จากวิธีการทั้ง 2 แบบ เมื่อนำมาวิเคระห์ โดย คำนึงถึงจุดประสงค์ ได้ดังนี้ คือ
วิธีการที่ 1 ทรงสามเหลี่ยม มีพื้นที่ในการใช้งานเยอะ มีรูปทรงที่แปลกใหม่
อีกทั้งสามเหลี่ยมจากการมองทางด้านหน้า
ทำให้เรารู้ว่ารูปทรงมันถนอมทรงรองเท้าของเรา
วิธีการที่ 2 ทรงสี่เหลี่ยม มีพื้นที่ในการใช้งานมาก แต่รูปทรงไม่แปลกใหม่
อีกทั้งไม่มีรูปทรงที่จะถนอมรองเท้าของเรา
สรุปผลการวิเคราะห์ เลือกวิธีการที่ 1 เพราะ ตรงตามจุดประสงค์ท่กล่าวมา
ขั้นที่
4 ออกแบบและปฏิบัติการ
1.
การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการโดยละเอียด
2.
การลงมือสร้าง
2.1
การตัดกระดาษได้ตามขนาดที่ต้องการ
2.2 แปะเทปสี
โดยเว้นขอบและขลิบไว้
2.3 พับกระดาษลังตามที่เราพับไว้
และติดเทปที่ขลิบไว้
2.4 ปิดเทปส่วนที่
ไม่ติดกัน
2.5 ทำอีก 4 อันแล้ว ประกอบด้วยกันให้หมด
แผนปฏิบัติการ
|
วัน เดือน
ปี
|
1. ศึกษาเอกสาร
2. เสนอเค้าโครงต่อที่ปรึกษา
3. ลงมือปฏิบัติ
4. วิเคราะห์ข้อมูล
5. เขียนรายงาน
|
26
มกราคม 2560
26 มกราคม 2560 26 มกรา - 15 กุมภา 2560 16 กุมภาพันธ์ 2560 17 กุมภาพันธ์ 2560 |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ประดิษฐ์ที่วางรองเท้าจากลังกระดาษที่มีมากมาย(นอกเหนือการขาย)
2. ใช้ทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
เอกสารอ้างอิง
1.https://daily.rabbit.co.th/diy
2.http://www.pt-pack.com.html
กระดาษลูกฟูก
คือ กระดาษที่ประกอบด้วยแผ่นปะหน้า 2
แผ่นและมีลอนกระดาษลูกฟูกอยู่ตรงกลาง ที่นิยมใช้กัน โดยทั่วไปจะมี 3 ประเภท คือ
1.
กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น (Single
Face)
ประกอบไปด้วย
กระดาษ แผ่นเรียบ 1 แผ่น ปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น
นิยมใช้กันกระแทกสินค้า หรือ ปะกล่อง offset ลอนมาตรฐาน
: B, C, E
2.
กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single
wall)
ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 2 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก 1 แผ่น โดยลอนลูกฟูก จะอยู่ตรงกลางระหว่าง กระดาษแผ่นเรียบทั้ง 2 แผ่น มักใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง
หรือ ไม่เน้นความแข็งแรงมากนัก
ลอนมาตรฐาน
: B, C, E
3.
กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double wall)
ประกอบไป
ด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก 2 แผ่น โดยกระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ติดกับผิวกล่องด้านนอกจะเป็นลอน B เพื่อประโยชน์ทางการพิมพ์ และ กระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ด้านในจะเป็นลอน C เพื่อประโยชน์ทางด้านรับแรงกระแทก
นิยมใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันสูง หรือมีน้ำหนักมาก
ลอนมาตรฐาน
: BC (ลอนB จะอยู่ด้านนอก ส่วนลอนC จะอยู่ด้านใน)
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการทำโครงงานตามหลักของกระบวนการเทคโนโลยี
ซึ่งมีหลักทั้งหมด
5 หลัก
โดยทำการหาปัญหาของชุมชนหนึ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งเยาวชนอย่างเรา
ควรจะสามารถปฏิบัติได้ และ เห็นความสำคัญ ของปัญหา ซึ่งปัญหาที่พบคือ
กระดาษลังจากการขายขนม หรือการส่งพัสดุนั้นมีมากมาย
แต่ทุกคนจะตัดสินใจใช้มันในทางที่เกิดประโยชน์ด้านการเงิน
คือการำมันไปขายและได้เงินมา แต่เราจะไม่ขายเราจะนำมันไปประดิษฐ์เป็นชั้นวางรองเท้าสำหรับคนในบ้าน
และนั่นก็คือการแก้ปัญหากระดาษลังที่มีมากมาย
ผลการวิจัยพบว่า
ที่วางรองเท้าจากลังกระดาษนั้น
สามารถทำได้ง่ายๆในทุกเพศทุกวัยแต่ในวัยเด็กก็ต้องมีผู้ปกครองช่วยเหลือด้วย
และการทำเราสามารถนำความคิดของเรามาประยุกต์ใช้กับการประดิษฐ์ ครั้งนี้ได้อีกด้วย
และการทำโครงงานครั้งนี้คณะผู้จัดทำ ก็ได้ทำตามกระบวนการเทคโนโลยีทุกขั้นตอน
โดยการทำนั้นก็ได้รับคำปรึกษาจากคุณครูด้วย
และการแก้ไขปัญหากระดาษลังที่มีมากมายนั้นก็สามารถช่วยลดลงได้
แต่การที่จะทำที่วางรองเท้านั้นต้องอาศัยความแข็งแรงของกระดาษลัง
และต้องคอยทำความสะอาดอยู่เสมอ
โครงงานการออกแบบตามหลักเทคโนโลยี
เรื่อง ชั้นวางรองเท้าจากลังกระดาษ สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาและความช่วยเหลืออย่างสูงยิ่งครูศศิอร
ศักดิ์กิตติพงศา ครูที่ปรึกษา ที่ได้กรุณาให้คำปรึกษาแนะนำ ตรวจสอบ แก้ไข
ข้อพกพร่องทุกขั้นตอนของการจัดทำโครงงาน รวมถึง การให้กำลังใจในการทำโครงงานนี้
ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ปราศจากข้อผิดพลาด
คณะผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ขอขอบพระคุณ บิดา มารดา เพื่อนนักเรียน
ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ไม่ได้กล่าวนามไว้ ณ ที่นี้
ที่ได้ให้กำลังใจและมีส่วนช่วยเหลือให้โครงงานฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี ท้ายที่สุด
คณะผู้จัดทำโครงงานหวังว่าโครงงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจไม่มากก็น้อย
คณะผู้จัดทำ
บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
โครงงานเรื่องนี้มีที่มาจากการต้องการกำจัดปัญหาในชุมชน
ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และนำมาทำเป็นประโยชน์
โดยการประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่เองและนำมาใช้เองด้วย
โดยเราเลือกปัญหาที่มีลังกระดาษมากมายจากร้านค้าหรือลังจากไปรษณีย์ ลังห่อของขวัญ
มาทำที่วางรองเท้าจากลังกระดาษง่ายๆ ใช้เองในบ้าน
จากการที่เราได้ทำที่วางรองเท้าจากลังกระดาษ พวกเราสามารถลดปัญหาลังกระดาษที่มีมากมาย
ไปสร้างประโยชน์ในทางอื่น ที่นอกเหนือจากการนำไปขาย
ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินไปซื้อเฟอร์นิเจอร์แพงๆ เพื่อมาใส่รองเท้าของเรา
วัตถุประสงค์
1.ประดิษฐ์ที่วางรองเท้าจากลังกระดาษที่มีมากมาย(นอกเหนือการขาย)
1.ประดิษฐ์ที่วางรองเท้าจากลังกระดาษที่มีมากมาย(นอกเหนือการขาย)
2.เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
กระดาษลูกฟูก
กระดาษลูกฟูก คือ กระดาษที่ประกอบด้วยแผ่นปะหน้า
2 แผ่นและมีลอนกระดาษลูกฟูกอยู่ตรงกลาง ที่นิยมใช้กัน โดยทั่วไปจะมี 3 ประเภท คือ
1. กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น (Single Face)
ประกอบไปด้วย
กระดาษ แผ่นเรียบ 1 แผ่น ปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น
นิยมใช้กันกระแทกสินค้า หรือ ปะกล่อง offset ลอนมาตรฐาน
: B, C, E
ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 2 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก 1 แผ่น โดยลอนลูกฟูก จะอยู่ตรงกลางระหว่าง กระดาษแผ่นเรียบทั้ง 2 แผ่น
มักใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง หรือ ไม่เน้นความแข็งแรงมากนัก
ลอนมาตรฐาน : B, C, E
3. กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double wall)
ประกอบไป
ด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก 2 แผ่น โดยกระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ติดกับผิวกล่องด้านนอกจะเป็นลอน B เพื่อประโยชน์ทางการพิมพ์ และ กระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ด้านในจะเป็นลอน C เพื่อประโยชน์ทางด้านรับแรงกระแทก
นิยมใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันสูง หรือมีน้ำหนักมาก
ลอนมาตรฐาน
: BC (ลอนB จะอยู่ด้านนอก ส่วนลอนC จะอยู่ด้านใน)
การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
1. การใช้อย่างประหยัด คือ
การใช้เท่าที่มีความจำเป็น
เพื่อให้มีทรัพยากรไว้ใช้ได้นานและเกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
2.
การนำกลับมาใช้ซ้ำอีก
สิ่งของบางอย่างเมื่อมีการใช้แล้วครั้งหนึ่งสามารถที่จะนำมาใช้ซ้ำได้อีก เช่น
ถุงพลาสติก กระดาษ เป็นต้น หรือสามารถที่จะนำมาใช้ได้ใหม่โดยผ่านกระบวนการต่างๆ
เช่น การนำกระดาษที่ใช้แล้วไปผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อทำเป็นกระดาษแข็ง เป็นต้น
ซึ่งเป็นการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและการทำลายสิ่งแวดล้อมได้
3.
การบูรณซ่อมแซม สิ่งของบางอย่างเมื่อใช้เป็นเวลานานอาจเกิดการชำรุดได้
เพราะฉะนั้นถ้ามีการบูรณะซ่อมแซม ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานต่อไปได้อีก
4.
การบำบัดและการฟื้นฟู เป็นวิธีการที่จะช่วยลดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรด้วยการบำบัดก่อน
เช่น การบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
ก่อนที่จะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
ส่วนการฟื้นฟูเป็นการรื้อฟื้นธรรมชาติให้กลับสู่สภาพเดิม เช่น การปลูกป่าชายเลน
เพื่อฟื้นฟูความ สมดุลของป่าชายเลนให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น
5.
การใช้สิ่งอื่นทดแทน
เป็นวิธีการที่จะช่วยให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยลงและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
เช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การใช้ใบตองแทนโฟม
การใช้พลังงานแสงแดดแทนแร่เชื้อเพลิง การใช้ปุ๋ยชีวภาพแทนปุ๋ยเคมี เป็นต้น
6.
การเฝ้าระวังดูแลและป้องกัน
เป็นวิธีการที่จะไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย เช่น
กาเฝ้าระวังการทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ คูคลอง การจัดทำแนวป้องกันไฟป่า
บทที่ 3
วิธีการศึกษาและเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
วิธีการศึกษา
ขั้นที่
1 กำหนดปัญหาหรือความต้องการ
ปัญหา คือ
การที่เรามีลังกระดาษในชุมชนที่มากมาย
แนวทางการแก้ปัญหา คือ
นำลังกระดาษเหล่านั้น มาทำเป็นที่วางรองเท้าด้วยตัวเอง สามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ
และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินมาก
ขั้นที่
2 รวบรวมข้อมูล
1.
การวิเคราะห์ปัญหาหรือความต้องการด้วยชุดคำถาม 5w1h
1.1)
ปัญหาหรือความสนองความต้องการคืออะไร (what)
- ต้องการนำลังกระดาษที่มีมากมาย
มาทำที่วางรองเท้า
1.2)
ปัญหาหรือสนองความต้องการเกิดขึ้นกับใคร (who)
- คนในชุมชน
1.3)
ปัญหาหรือความสนองความต้องการเกิดขึ้นที่ไหน (where)
- ชุมชน
1.4)
ปัญหาหรือความสนองความต้องการเกิดขึ้นเมื่อไร (when)
-
เมื่อพบว่าชุมชนไม่นำลังกระดาษมาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้
1.5) เพราะเหตุใดจึงต้องแก้ปัญหาหรือความสนองความต้องการ
-
ต้องการนำของที่มีอยู่นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้
1.6)
จะแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการอย่างไร (how)
- นำลังกระดาษมาทำที่วางรองเท้า
2.
ข้อมูลที่จำเป็นในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ
2.1 รูปแบบที่วางรองเท้า
รูปแบบในการทำนั้นต้องแปลกใหม่
มีรูปทรงที่ใช้งานได้เยอะๆ เหมาะกับรูปทรงของรองเท้า ถนอมรองเท้าไม่ให้พัง
และตกแต่งให้เข้ากับสีรองเท้า ซึ่งมีทั้ง รูปแบบสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม
ขั้นที่
3 เลือกวิธีการ
ที่วางรองเท้าจากลังกระดาษนั้น
เราต้องคำนึงถึง พื่นที่ในการใช้ประโยชน์ที่คุ้มค้า ถนอมรูปทรงรองเท้า
ไม่เกะกะมากจนเกินไป และ มีรูปทรงแปลกใหม่
จากวิธีการทั้ง 2 แบบ เมื่อนำมาวิเคระห์
โดย คำนึงถึงจุดประสงค์ ได้ดังนี้ คือ
วิธีการที่ 1 ทรงสามเหลี่ยม
มีพื้นที่ในการใช้งานเยอะ มีรูปทรงที่แปลกใหม่ อีกทั้งสามเหลี่ยมจากการมองทางด้านหน้า
ทำให้เรารู้ว่ารูปทรงมันถนอมทรงรองเท้าของเรา
วิธีการที่ 2 ทรงสี่เหลี่ยม
มีพื้นที่ในการใช้งานมาก แต่รูปทรงไม่แปลกใหม่
อีกทั้งไม่มีรูปทรงที่จะถนอมรองเท้าของเรา
สรุปผลการวิเคราะห์ เลือกวิธีการที่ 1
เพราะ ตรงตามจุดประสงค์ท่กล่าวมา
ขั้นที่
4 ออกแบบและปฏิบัติการ
1.
การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการโดยละเอียด
2.
การลงมือสร้าง
2.1 การตัดกระดาษได้ตามขนาดที่ต้องการ
2.2 แปะเทปสี โดยเว้นขอบและขลิบไว้
2.3
พับกระดาษลังตามที่เราพับไว้ และติดเทปที่ขลิบไว้
2.4
ปิดเทปส่วนที่ ไม่ติดกัน
2.5 ทำอีก 4 อันแล้ว ประกอบด้วยกันให้หมด
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้
1. ลังกระดาษ
2. เทปกาว
วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้
1. ลังกระดาษ
2. เทปกาว
3.
กรรไกร
4. กระดาษ
4. กระดาษ
บทที่ 4
บทที่ 4 ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศึกษา
ผลการศึกษา
จากการที่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับชั้นวางรองเท้าจากกระดาษลังเพื่อทำโครงงาน
และหลังจากการที่ได้ศึกษาข้อมูลแล้วผู้จัดทำได้รับความรู้ดังนี้
1.ได้รับความรู้ในเรื่องการนำของเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์
2.ได้รับความรู้ทางการงานอาชีพ
3.ได้รู้จักชนิดต่างๆของกระดาษลัง
ว่าควรใช้แบบใด
4.ได้ตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
5.มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง
(ที่นักศึกษาได้ทำการค้นคว้า)
1. การใช้อย่างประหยัด คือ
การใช้เท่าที่มีความจำเป็น เพื่อให้มีทรัพยากรไว้ใช้ได้นานและเกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
2. การนำกลับมาใช้ซ้ำอีก สิ่งของบางอย่างเมื่อมีการใช้แล้วครั้งหนึ่งสามารถที่จะนำมาใช้ซ้ำได้อีก เช่น ถุงพลาสติก กระดาษ เป็นต้น หรือสามารถที่จะนำมาใช้ได้ใหม่โดยผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การนำกระดาษที่ใช้แล้วไปผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อทำเป็นกระดาษแข็ง เป็นต้น ซึ่งเป็นการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและการทำลายสิ่งแวดล้อมได้
2. การนำกลับมาใช้ซ้ำอีก สิ่งของบางอย่างเมื่อมีการใช้แล้วครั้งหนึ่งสามารถที่จะนำมาใช้ซ้ำได้อีก เช่น ถุงพลาสติก กระดาษ เป็นต้น หรือสามารถที่จะนำมาใช้ได้ใหม่โดยผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การนำกระดาษที่ใช้แล้วไปผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อทำเป็นกระดาษแข็ง เป็นต้น ซึ่งเป็นการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและการทำลายสิ่งแวดล้อมได้
3. การบูรณซ่อมแซม สิ่งของบางอย่างเมื่อใช้เป็นเวลานานอาจเกิดการชำรุดได้
เพราะฉะนั้นถ้ามีการบูรณะซ่อมแซม ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานต่อไปได้อีก
4. การบำบัดและการฟื้นฟู เป็นวิธีการที่จะช่วยลดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรด้วยการบำบัดก่อน เช่น การบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น ก่อนที่จะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ส่วนการฟื้นฟูเป็นการรื้อฟื้นธรรมชาติให้กลับสู่สภาพเดิม เช่น การปลูกป่าชายเลน เพื่อฟื้นฟูความ สมดุลของป่าชายเลนให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น
4. การบำบัดและการฟื้นฟู เป็นวิธีการที่จะช่วยลดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรด้วยการบำบัดก่อน เช่น การบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น ก่อนที่จะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ส่วนการฟื้นฟูเป็นการรื้อฟื้นธรรมชาติให้กลับสู่สภาพเดิม เช่น การปลูกป่าชายเลน เพื่อฟื้นฟูความ สมดุลของป่าชายเลนให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น
5. การใช้สิ่งอื่นทดแทน
เป็นวิธีการที่จะช่วยให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยลงและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
เช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การใช้ใบตองแทนโฟม
การใช้พลังงานแสงแดดแทนแร่เชื้อเพลิง การใช้ปุ๋ยชีวภาพแทนปุ๋ยเคมี เป็นต้น6.
การเฝ้าระวังดูแลและป้องกัน เป็นวิธีการที่จะไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย
เช่น เฝ้าระวังการทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ คูคลอง การจัดทำแนวป้องกันไฟป่า
บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา
สรุปผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ
สรุปผลการศึกษา
ในการจัดทำโครงงานชั้นวางรองเท้าจากลังกระดาษ ผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และข่าวสารจากสื่อโทรทัศน์ ในการศึกษาครั้งนี้ทำให้ตระหนักได้ว่าในชีวิตประจำวันของเรานั้นมีของเหลือใช้มากมายที่เราอาจจะไม่เคยเห็นค่า การศึกษาเพื่อทำโครงงานชิ้นนี้จึงได้ให้ผู้ศึกษาได้มองเห็นประโยชน์ของสิ่งเหลือใช้และนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในการจัดทำโครงงานชั้นวางรองเท้าจากลังกระดาษ ผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และข่าวสารจากสื่อโทรทัศน์ ในการศึกษาครั้งนี้ทำให้ตระหนักได้ว่าในชีวิตประจำวันของเรานั้นมีของเหลือใช้มากมายที่เราอาจจะไม่เคยเห็นค่า การศึกษาเพื่อทำโครงงานชิ้นนี้จึงได้ให้ผู้ศึกษาได้มองเห็นประโยชน์ของสิ่งเหลือใช้และนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.ได้รับความรู้ในเรื่องการนำของเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์
2.ได้รับความรู้ทางการงานอาชีพ
3.ได้รู้จักชนิดต่างๆของกระดาษลัง ว่าควรใช้แบบใด
4.ได้ตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
5.มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง
1.ได้รับความรู้ในเรื่องการนำของเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์
2.ได้รับความรู้ทางการงานอาชีพ
3.ได้รู้จักชนิดต่างๆของกระดาษลัง ว่าควรใช้แบบใด
4.ได้ตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
5.มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง
ข้อเสนอแนะ
1.ควรจะมีสื่อในการสอนทำสิ่งประดิษฐ์
2.ควรมีการจัดการอบรมเกี่ยวกับสิ่งของเหลือใช้
เอกสารอ้างอิง
1.ควรจะมีสื่อในการสอนทำสิ่งประดิษฐ์
2.ควรมีการจัดการอบรมเกี่ยวกับสิ่งของเหลือใช้
เอกสารอ้างอิง
กิตติยาพร อมรรัตน์. 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.
2560. การทำชั้นวางรองเท้าจากลังกระดาษ. สืบค้นจาก ttps://daily.rabbit.co.th/diyแหล่งที่มาที่ทำชั้นวางรองเท้าจากลังกระดาษ.
กลุ่มบริษัทอินเตอร์ . 16 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2560.ข้อมูลลังกกระดาษ. สืบค้น http://inter-group.co.th/about-us/ แหล่งที่มาข้อมูลลังกระดาษ.
1.https://daily.rabbit.co.th/diy
2.http://www.pt-pack.com.html
กระดาษลูกฟูก คือ กระดาษที่ประกอบด้วยแผ่นปะหน้า 2 แผ่นและมีลอนกระดาษลูกฟูกอยู่ตรงกลาง ที่นิยมใช้กัน โดยทั่วไปจะมี 3 ประเภท คือ
1. กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น (Single Face)
ประกอบไปด้วย กระดาษ แผ่นเรียบ 1 แผ่น ปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น นิยมใช้กันกระแทกสินค้า หรือ ปะกล่อง offset ลอนมาตรฐาน : B, C, E
2. กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single wall)
ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 2 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก 1 แผ่น โดยลอนลูกฟูก จะอยู่ตรงกลางระหว่าง กระดาษแผ่นเรียบทั้ง 2 แผ่น มักใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง หรือ ไม่เน้นความแข็งแรงมากนัก
ลอนมาตรฐาน : B, C, E
3. กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double wall)
ประกอบไป ด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก 2 แผ่น โดยกระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ติดกับผิวกล่องด้านนอกจะเป็นลอน B เพื่อประโยชน์ทางการพิมพ์ และ กระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ด้านในจะเป็นลอน C เพื่อประโยชน์ทางด้านรับแรงกระแทก นิยมใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันสูง หรือมีน้ำหนักมาก